ลงทะเบียนเข้างาน
Mobile number
e-mail
Sponsors
view all
Banner
view all
News
Share
บัตรประชาชนเด็ก มิติใหม่ มากมายสิทธิประโยชน์!?
บัตรประชาชนเด็ก มิติใหม่ มากมายสิทธิประโยชน์ !? กลายเป็นประเด็นฮอตที่กำลังฮือฮาอยู่ในขณะนี้ เมื่อเด็กอายุ 7 ปีขึ้นไปจะต้องมีบัตรประชาชน! จากพระราชบัญญัติบัตรประจำตัวประชาชน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2554 ที่มีสาระสำคัญ คือ กำหนดให้ผู้มีสัญชาติไทยอายุตั้งแต่ 7 ปีบริบูรณ์ แต่ไม่เกิน 70 ปี และมีชื่อในทะเบียนบ้าน ต้องมีบัตรประชาชน โดยร่างพระราชบัญญัติประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา ตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 ที่ผ่านมา และมีผลบังคับใช้ 60 วัน นับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา ดังนั้นจึงมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 ที่จะถึงนี้

"ทำไมเด็ก 7 ปี ต้องมีบัตรประชาชนด้วย" จึงเป็นคำถามที่เกิดขึ้นในใจใครหลายคน รวมทั้ง ผู้ปกครองที่มีบุตรหลานอยู่ในวัยนี้ จักรี ชื่นอุระ ผู้อำนวยการสำนักทะเบียน กรมการปกครอง ไขข้อข้องใจในเรื่องนี้ว่า จริงๆ แล้วประเด็นดังกล่าวเป็นเรื่องที่มีการพูดคุยหารือกันมานานแล้ว โดยเป็นความต้องการของสังคมมากกว่าที่ต้องการให้คนที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี มีบัตรประชาชนเหมือนกับผู้ใหญ่เพื่อแสดงตน โดยเฉพาะในการเข้ารับบริการสาธารณะของรัฐ จึงได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการออกบัตรประจำตัวประชาชน เพื่อให้สอดคล้องกับการที่รัฐจะนำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริการประชาชนในด้านต่างๆ ผ่านทางบัตรประจำตัวประชาชน

"แต่เดิมมีสวัสดิการต่างๆ ที่ได้จากรัฐ เช่น โครงการประกันด้านสุขภาพ ซึ่งจะใช้บัตรทองในการเข้ารับบริการ โดยคนที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี ก็มีบัตรทองใช้ เมื่อโครงการดังกล่าวยกเลิกไป เปลี่ยนมาใช้บัตรประชาชนแทน ตรงนี้จะทำให้เกิดปัญหากับกลุ่มที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี เพราะไม่มีหลักฐานแสดงตัว

โดยปัจจุบันที่ใช้อยู่ คือ สูติบัตรและทะเบียนบ้าน ซึ่งมีปัญหาอีกที่ว่ามีแต่เฉพาะข้อความ ชื่อ นามสกุล วัน เดือน ปี เกิด แต่ไม่มีรูปถ่าย จึงทำให้มีปัญหาตามมาว่า เอกสารที่นำมายืนยันกับตัวเด็กเป็นของคนเดียวกันหรือไม่ เพราะบางครั้งเกิดเหตุการณ์ เด็กชาย ก.มายื่นเอกสารเข้ารับบริการทุกวัน แต่หน้าตาของเด็กชาย ก. ไม่เหมือนกันสักวันเลย ซึ่งตรงนี้รัฐเองก็ต้องการตรวจสอบให้แน่ชัดว่าผู้ที่เข้ารับบริการเป็นใคร เป็นคนไทยหรือไม่ มีสิทธิในสวัสดิการนั้นจริงหรือเปล่า เพื่อให้เกิดความชัดเจน จึงควรขยายการทำบัตรประชาชนมายังกลุ่มที่มีปัญหาในเรื่องการแสดงตน"

ส่วนเรื่องที่กำหนดให้เด็กอายุ 7 ปีขึ้นไปนั้น เป็นเรื่องที่มีการพูดคุยกันในรัฐสภาแล้ว ซึ่งมีบางคนเสนอให้มีการทำบัตรตั้งแต่อายุ 1 ปี แต่ก็มาสรุปที่ 7 ปี เพราะเป็นช่วงที่เด็กเริ่มเข้าระบบการศึกษาแล้ว มีโอกาสที่จะได้ใช้เพื่อรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่พึงมีพึงได้ เช่น สิทธิในการรักษาพยาบาล ซึ่งเด็กจะสามารถแสดงตัวได้ง่ายขึ้นอีกทั้ง การลักลอบสวมสิทธิก็ทำได้ยากขึ้น

นอกจากนั้น ยังเกิดความสะดวกในการใช้งาน แทนที่จะต้องพกทะเบียนบ้าน สูติบัตร ก็พกบัตรประชาชนเพียงใบเดียวก็สามารถแสดงตนในเจ้าของสิทธินั้นได้ทันที รวมทั้ง หน่วยงานของรัฐ และหน่วยงานต่างๆ ก็จะสามารถแยกแยะกลุ่มคนได้ชัดเจน เพราะกลุ่มการบริการมีหลายหน่วยงานด้วยกัน ทั้งประกันสังคม ประกันสุขภาพ สวัสดิการจากราชการ ฯลฯ

ตลอดจนในอนาคตสามารถที่จะตรวจสอบประวัติได้ด้วย เพราะเมื่อเข้าสู่ระบบการทำบัตรประชาชนแล้ว จะมีการจัดเก็บข้อมูลของประชาชนเพิ่มขึ้น คือ นอกเหนือจาก ชื่อ ที่อยู่ วัน เดือน ปี เกิด บิดา มารดาแล้ว จะมีการเก็บรูปถ่ายของเด็ก ลายนิ้วมือของเด็กเพิ่มเข้าไป อีกทั้ง เมื่อเด็กได้ทำบัตรครั้งแรกแล้ว ครั้งต่อไปก็จะไม่มีใครมาสวมสิทธิของเด็กได้ เพราะมีการตรวจสอบเกิดขึ้นโดยเริ่มตั้งแต่คนที่มีอายุ 7 ปี ขึ้นไป

ผลจากกฎหมายดังกล่าว จะทำให้เด็กที่อยู่ในช่วงอายุ 7-14 ปี ต้องทำบัตรประชาชน ซึ่งในขณะนี้ทั่วประเทศมีอยู่ประมาณ 8 ล้านคนในกลุ่มของคนไทยที่สามารถทำบัตรประชาชนได้ โดยในช่วง 60 วันนี้จึงต้องมีการออกระเบียบ ออกกฎกระทรวงเพื่อรองรับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ เพราะกฎหมายเดิมไม่ได้เขียนวิธีการทำบัตรเด็กอายุ 7 ปีเอาไว้

ผู้อำนวยการสำนักทะเบียน กล่าวถึงการดำเนินงานในเรื่องนี้ว่า สำหรับขั้นตอนในการทำบัตรประชาชนให้กับเด็กที่มีอายุ 7-14 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่ แม้กฎหมายจะไม่ได้บังคับให้เด็กกลุ่มนี้ต้องทำบัตรพร้อมกัน เพราะระบุไว้ว่า ให้เด็กมาทำได้ในช่วง 1 ปี และสามารถขยายเวลาออกไปได้ตามความเหมาะสม แต่กรมการปกครองก็ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา เพื่อดำเนินการให้บริการกับเด็กๆ โดยในช่วงนี้จะเป็นช่วงเวลาของการกำหนดวิธีการต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้เด็กมาเข้ารับบริการในส่วนของการยื่นเอกสารต่างๆ โดยที่ไม่ต้องยุ่งยากกับตัวเด็กและผู้ปกครองมากนัก

"สำหรับขั้นตอนในการทำบัตรจะเน้นให้บริการเป็นกลุ่ม เพราะเด็กที่มีอายุ 7- 14 ปี จะเป็นกลุ่มเด็กที่อยู่ในโรงเรียนเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ มีหลักฐานในการเข้าโรงเรียนซึ่งเป็นการตรวจสอบในระดับหนึ่งอยู่แล้ว จึงอาจจะต้องจัดให้มีบริการในวันธรรมดาและวันหยุด เพื่อจะให้มีแผนในการนัดหมายกัน อาทิ ในวันธรรมดาวันที่นี้ สำหรับโรงเรียนนี้ เด็กชั้นนี้ หรือในวันหยุด ช่วงเช้า ตั้งแต่กี่โมงถึงกี่โมงสำหรับโรงเรียนนี้ ชั้นนี้มาทำบัตร โดยมีคุณครูพานักเรียนมาที่สำนักงานเขตหรือที่ว่าการอำเภอ ตรงนี้คงต้องประสานขอความร่วมมือกับโรงเรียนต่างๆ เพื่อจะได้ให้ครูช่วยดูแลเด็กด้วย ก็จะมากันเป็นกลุ่มๆ ซึ่งตรงนี้ก็จะเกิดความสะดวกและรวดเร็วทั้ง 2 ฝ่าย คือ ทั้งในการให้บริการและเข้ารับบริการ ผู้ปกครองก็จะได้เกิดความสะดวกไม่ต้องมาดูแลหรือเสียเวลาพาเด็กมาทำบัตรด้วยตนเอง"

กรณีที่ 2 จะเป็นการจัดชุดเจ้าหน้าที่พร้อมอุปกรณ์เข้าไปทำบัตรประชาชนให้กับเด็กที่โรงเรียน ที่เรียกว่า ชุดเคลื่อนที่ หรือ่ชุดโมบายก็จะมีส่วนหนึ่ง ซึ่งจะดำเนิน

การทั้งในวันธรรมดาและวันหยุดเช่นกัน แต่ชุดนี้จะมีไม่มากนักถ้าเทียบกับจำนวนโรงเรียน และจำนวนอำเภอในท้องที่ต่างๆ ในอนาคตอาจจะมีการขยายจำนวนให้มากขึ้นหากมีความต้องการที่เพิ่มขึ้น โดยประสานกับทางโรงเรียนในการจัดเรียงตามความเหมาะสมในแต่ละชั้นปีของเด็กที่จะเข้ารับบริการ ซึ่งทางโรงเรียนก็จะมีข้อมูลเหมือนกับที่ทางหน่วยงานมีข้อมูล ตรงนี้จะเป็นการตรวจสอบไปในตัวว่าตรงกันหรือไม่ ก็จะเกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยและความสะดวกในการดำเนินการรวมทั้ง ในสถานรับเลี้ยงเด็กหรือในสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้า ก็จะมีเจ้าหน้าที่เข้าไปทำบัตรประชาชนให้ด้วยเช่นกัน ซึ่งตรงนี้คงต้องดูความพร้อมและความเหมาะสมด้วย

สุดท้าย บริการทั่วไปจะเหมือนกับที่บุคคลอื่นๆ มาทำบัตรประชาชนกัน คือ ถ้าผู้ปกครองสะดวกที่จะพาบุตรหลานมาทำบัตรประชาชนก็สามารถมาทำได้ที่สำนักงานเขตและที่ว่าการอำเภอทั่วประเทศ ซึ่งก็จะมีขั้นตอนตามปกติทั่วไปของการทำบัตรประชาชน โดยขั้นตอนทั้งหมดหลังจากวันที่ 9 ก.ค. ระเบียบเหล่านี้จะชัดเจน เพราะจะต้องพร้อมที่จะดำเนินการโดยลักษณะบัตรประชาชนของเด็กจะเหมือนกับของผู้ใหญ่ทุกประการ และมีอายุ 8 ปี นับแต่วันเกิดของผู้ถือบัตรที่ถึงกำหนดภายหลังจากวันออกบัตร

ข้อมูลจาก : http://www.vcharkarn.com/varticle/42843
News Others
Promotion Credit Card in BBB55
Promotion Credit Card in BBB55
ลงทะเบียนเข้างานครั้งแรก
ลงทะเบียนเข้างานครั้งแรก
ครอบครัว BBB บริจาคเงิน สมทบทุนมูลนิธิรามาธิบดีฯ
ครอบครัว BBB บริจาคเงิน สมทบทุนมูลนิธิรามาธิบดีฯ
ทุนมะเร็งในเด็ก, ทุน OPD เด็ก, ทุนศัลยกรรมในเด็ก
Sponsors
view all
Banner
view all