ลงทะเบียนเข้างาน
Mobile number
e-mail
ข่าวสาร
แบ่งปัน
เรื่องที่ไม่ควรมองข้ามเกี่ยวกับ “ดวงตาคู่ใส” ของลูก
เรื่องที่ไม่ควรมองข้ามเกี่ยวกับ “ดวงตาคู่ใส” ของลูก เมื่อพูดถึง “ดวงตา” กล่าวได้ว่า เป็นอวัยวะเล็ก ๆ ที่ต้องดูแล และให้ความสำคัญ โดยเฉพาะดวงตาคู่ใสของลูกน้อยที่พ่อแม่ควรใส่ใจ และคอยสังเกตความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เพราะไม่เช่นนั้นอาจมีปัญหาด้านการมองเห็น ส่งผลให้การเรียนรู้ในโลกกว้างของลูกค่อย ๆ แคบลงไปอย่างน่าเสียดาย

นพ.พิพัฒน์ อนุชาตระกูล จักษุแพทย์ ศูนย์จักษุ โรงพยาบาลปิยะเวท บอกผ่านทีมข่าว Life & Family ว่า ดวงตาของลูกน้อย เป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรมองข้าม หากมีอะไรผิดปกติหรือสงสัยว่าดวงตาของลูกจะมีปัญหา เช่น ตาดำดูผิดปกติ ตาเหล่ หรือมีโรคเกี่ยวกับตา เช่น ต้อกระจกในเด็ก ซึ่งสังเกตพบได้จากจุดสีขาวที่ตาดำของลูก แล้วเด็กรู้สึกระคายมัว ๆ ทำให้ตาดำสั่นในจำนวนครั้งที่ถี่ขึ้น ควรพบจักษุแพทย์โดยเร็ว เพื่อจะได้นัดวันเวลาในการรักษาให้ทันท่วงทีก่อนลูกจะเสียดวงตาไปอย่างถาวร

“ต้อกระจกในเด็กเกิดจาก 2 สาเหตุ คือ คุณแม่ป่วยเป็นโรคหัดเยอรมันขณะตั้งครรภ์ ปัจจุบันไม่ค่อยพบแล้ว เพราะมีการสนับสนุนวัคซีนป้องกัน ส่วนอีกสาเหตุหนึ่งคือ กรรมพันธุ์ที่ญาติ หรือพี่น้อง เคยเป็นตาต้อกระจกมาก่อนแล้วถ่ายทอดสู่ทารก นอกจากนั้นต้อกระจกในเด็กยังเกิดขึ้นได้จากอุบัติเหตุขณะทำคลอด เช่น มีเครื่องมือไปกระทบเลนส์ตา หรือเด็กบางคนมีโรคที่ต้องใช้ยาหลายอย่างซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดต้อกระจกได้ เช่นกัน” นพ.พิพัฒน์เผย

ทั้งนี้ หากตรวจพบว่าเป็นต้อกระจก แพทย์จะสลายต้อแล้วเอาเลนส์เสียออก จากนั้นติดตามอาการจนเด็กอายุประมาณ 2 ขวบจะใส่เลนส์เทียมทดแทนอวัยวะดั้งเดิมที่ขุ่นเป็นต้อ ซึ่งไม่ต้องเป็นภาระในการถอดล้างหรือทำความสะอาด และสามารถใช้ได้ตลอดชีวิต แต่ในการติดตามอาการจำเป็นต้องดูแลต่อเนื่อง เพราะบางรายมีปัญหาสายตาสั้นเพิ่ม แพทย์จะแนะนำวิธีการรักษาแบบผู้ใหญ่ตามขั้นตอน

ปัจจุบันกุมารแพทย์ตามโรง พยาบาลต่าง ๆ จะแนะนำให้ตรวจวัดสายตา และวินิจฉัยความผิดปกติของเด็กตั้งแต่คลอดได้ราว 1 เดือนเพื่อป้องกัน และทำการรักษาได้ทันก่อนมีปัญหาด้านการมองเห็นถาวร ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่อาจมองข้ามได้

อย่างไรก็ตาม พ่อแม่หลาย ๆ ท่านอาจกังวลใจว่า การที่ลูกใช้สายตากับคอมพิวเตอร์ หรือจอเกมมากเกินไปมีผลต่อการเกิดเป็นต้อกระจกได้หรือไม่ นพ.พิพัฒน์ ชี้แจงว่า ไม่มีผลต่อการเกิดต้อกระจอ เพียงแต่จะทำให้สายตาเกิดการเมื่อยล้า และค่อย ๆ ลดประสิทธิภาพด้านการมองเห็นลงไปเท่านั้น ทางที่ดี คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความสำคัญกับการใช้สายตาของลูก เช่น ไม่ควรให้ดูโทรทัศน์หรือเพ่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ในระยะที่ใกล้ และนานเกินไป ซึ่งต้องมีการควบคุมในเรื่องของเวลาด้วย

นอกจากนี้ นพ.พิพัฒน์ กล่าว เพิ่มเติมว่า เด็กควรมีเครื่องป้องกันสายตาจากแสงหน้าจอคอมพิวเตอร์ และแสงแดดนอกบ้านด้วย โดยแสงจากหน้าจอคอมพ์อาจมีเครื่องกรองแสง หรือแว่นให้ลูก ส่วนแสงแดดนอกบ้าน คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ ท่านละเลยในการดูแลสายตาลูกเมื่อต้องอยู่กลางแดด โดยหารู้ไม่ว่า รังสียูวีจะเป็นตัวทำลายจอประสาทตาและแก้วตา ซึ่งนานวันเข้าก็จะส่งผลเสียกับดวงตาในระยะยาว ทางที่ดีควรเลือกซื้อหมวก หรือแว่นกันแดดที่มีเลนส์กรองแสงยูวีเพื่อรักษาสายตาให้ลูกเวลาเผชิญกับแดด จัด

สำหรับการเลือกแว่นกันแดดให้ลูกนั้น ใน เด็กเล็กยังไม่สามารถเลือกเองได้ ควรให้จักษุแพทย์ช่วยแนะนำดีที่สุด เพราะหากเลือกไม่ถูกวิธี ไม่เพียงแต่จะไม่ช่วยถนอมสายตาแล้ว ในทางกลับกันจะยิ่งทำให้เสี่ยงต่อสายตาที่จะถูกทำร้ายมากขึ้น ดังนั้น ควรเลือกแว่นกันแดดที่มีตรา CE (เครื่องหมายรับรองความปลอดภัยของ EU) เพื่อคุณภาพและความปลอดภัยของสายตาลูก โดยเด็กสวมแว่นกันแดดได้ตั้งแต่ 2-3 ขวบขึ้นไป

“พ่อแม่ควรพาลูกไปตรวจสายตา เป็นประจำอย่างน้อยปีละครั้งในเด็กปกติ เพราะของเล่นหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ในยุคสมัยนี้ เช่น เกมพกพา มีการผลิตที่เล็กลงเรื่อย ๆ ทำให้เด็กมีการใช้สายตามากขึ้น และหากมีการเพ่งใกล้ ๆ และนานเกินไป อาจลดประสิทธิภาพทางการมองเห็นในระยะยาวได้ ดังนั้นควรตรวจสายตาเพื่อเช็กความผิดปกติเป็นประจำทุกปีดีที่สุด” จักษุแพทย์ โรงพยาบาลปิยะเวทสรุป

ข้อมูลจาก : http://www.nativespeakingkids.com
เรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
Promotion Credit Card in BBB59
Promotion Credit Card in BBB59
โปรโมชั่นบัตรเครดิตภายในงานมากมาย! ช้อปสะดวก ผ่านบัตร พร้อมรับสิทธิพิเศษเพียบ
VISITOR INFORMATION BBB59
VISITOR INFORMATION BBB59
รู้ไว้ก่อนไม่เสียหาย จุดบริการ Service ต่างๆ ภายในงาน พร้อมสิทธิพิเศษต่างๆ มากมาย
ลงทะเบียนเข้างานครั้งแรก
ลงทะเบียนเข้างานครั้งแรก