ลงทะเบียนเข้างาน
Mobile number
e-mail
ข่าวสาร
แบ่งปัน
คิดก่อนส่งลูกเรียนกวดวิชาช่วงปิดเทอม

คิดก่อนส่งลูกเรียนกวดวิชาช่วงปิดเทอม จำได้ว่าสมัยเมื่อตัวเองยังเป็นเด็ก ก็ไม่ต่างจากเด็กทั่วไป ที่พ่อแม่ก็ส่งไปเรียนกวดวิชาในช่วงปิดเทอม ทั้งที่ไม่ได้ต้องการเลยแม้แต่น้อย แต่ก็ต้องไปด้วยเหตุผลที่เพื่อนๆ ก็ไปเรียนกันทั้งนั้น ซึ่งเป็นช่วงอึดอัดไม่อยากทำ แต่ต้องจำใจไป ทำให้บางวันก็โดด หรือไม่ก็แอบหนีไปทำกิจกรรมที่ชื่นชอบแทน เพราะเบื่อที่ต้องเรียนกันทั้งปี ปิดเทอมก็ไม่ได้หยุด 

จนกระทั่งถึงคราวตัวเองมีลูก ถึงเข้าใจดีว่าถ้าจะส่งลูกไปเรียนกวดวิชา เขาควรมีส่วนร่วมด้วย เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว จะเกิดประโยชน์อันใดเล่า…!!!

แต่ดูเหมือนสถานการณ์พ่อแม่ส่งลูกไปเรียนกวดวิชาในยุคปัจจุบันหนักข้อเข้าไปอีก จากที่ในอดีตพ่อแม่ส่งลูกไปเรียนในช่วงวัยมัธยม แต่ยุคนี้พ่อแม่ส่งไปตั้งแต่วัยเล็กๆ ระดับอนุบาลหรือประถมศึกษากันซะแล้ว

ตลาดรวมของธุรกิจสถาบันกวดวิชาหรือกิจกรรมพิเศษในช่วงปิดเทอมเติบโตขึ้นทุกปี นี่ยังไม่นับรวมเด็กที่ต้องเรียนพิเศษในช่วงเย็นหรือช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ของช่วงการเรียนปกติ เพื่อรองรับในย่านที่อยู่อาศัยที่ขยายตัวออกไปตามชานเมืองมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะตามห้างสรรพสินค้า ที่ดูเหมือนจะเป็นสูตรสำเร็จของแหล่งสถาบันกวดวิชาที่จะเป็นแหล่งรวมกิจกรรมมากมาย 

ประมาณว่าส่งลูกเรียน พ่อแม่ชอปปิ้ง และใช้ชีวิตร่วมกันให้ห้างสรรพสินค้านั่นแหละ

ช่วงปีที่ผ่านมา ดิฉันเดินทางไปทั่วทุกภูมิภาค สังเกตเห็นได้ชัดว่า โรงเรียนกวดวิชาชื่อดังจากกรุงเทพฯ ไปเปิดสาขาในต่างจังหวัดตามหัวเมืองกันเนืองแน่น รูปแบบการใช้ชีวิตของเด็กต่างจังหวัดก็เปลี่ยนไป ไม่ต่างจากเด็กเมืองหลวงอีกต่อไป ช่วงวันหยุดหรือช่วงปิดเทอม เด็กๆ ก็จะถูกส่งไปเรียนกวดวิชากันพรึ่บพรั่บ

เหตุผลหลักของพ่อแม่ในการส่งลูกไปเรียนกวดวิชา เพราะอยากให้ลูกเรียนเก่ง อยากให้ลูกเรียนล่วงหน้าของระดับชั้นต่อไป อยากให้ลูกเข้าโรงเรียนชื่อดัง ไม่มีเวลาอยู่กับลูกเพราะต้องทำงานนอกบ้าน ฯลฯ

สถานการณ์เช่นนี้ไม่ได้เกิดเฉพาะในบ้านเราเท่านั้น ประเทศในโซนเอเชียเกิดปรากฏการณ์เช่นนี้แห่ขยายกันไปทั่ว เช่น เด็กเกาหลีที่หนักหนาทั้งเรียนในโรงเรียนและเรียนกวดวิชา เด็กจีนโดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กตามหัวเมืองใหญ่ ส่งลูกเรียนพิเศษตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลกันซะแล้ว

เรียกว่ายิ่งเด็กโตขึ้น เด็กก็ยิ่งมีภาระในการเรียนมากขึ้น จนไม่มีเวลาว่าง ซึ่งไม่ต่างจากผู้ใหญ่ที่ต้องทำงานหนัก เพราะผู้ปกครองต่างพยายามเคี่ยวเข็ญลูก โดยหวังว่าลูกจะได้เข้าโรงเรียนมัธยมที่ดี เพื่อกรุยทางสู่ระดับมหาวิทยาลัยต่อไป

ข้อสังเกตที่น่าสนใจคือ ในแต่ละวัน เด็กๆ ส่วนใหญ่ ใช้เวลาอยู่ที่โรงเรียนนานถึง 9-10 ชั่วโมง ซึ่งมากกว่าชั่วโมงทำงานของผู้ใหญ่เสียอีก

การเตรียมลูกให้มีความพร้อมเพื่อการแข่งขันทางการศึกษาในอนาคตนั้น เป็นเรื่องที่ดี แต่พ่อแม่ผู้ปกครองก็ต้องไม่ลืมว่าเด็กก็คือเด็ก ที่ยังต้องการเวลาเล่นสนุกบ้าง ไม่ใช่ให้ตะบี้ตะบันเรียนเพียงอย่างเดียว มีหลายสิ่งอย่างที่ควรให้ลูกมีทักษะการใช้ชีวิตอย่างรอบด้านด้วย 

มีข้อคิดก่อนตัดสินใจส่งลูกเรียนกวดวิชามาฝาก


หนึ่ง ถามตัวเองก่อนว่าถ้าให้ลูกอยู่บ้านแล้วทำกิจกรรมร่วมกับลูกได้หรือไม่ เพราะลูกเราก็เรียนมาตลอดทั้งปี เราเองทำงานยังเหนื่อยต้องการวันหยุดพักร้อน แล้วนับประสาอะไรกับเด็กๆ ที่ต้องการวันหยุดพักผ่อนเช่นกัน 

สอง ถามลูกก่อน ว่ายากเรียนหรือเปล่า ถ้าเป็นกิจกรรมที่ลูกชอบหรือร้องขอก็ป็นเรื่องดี เพราะเป็นกิจกรรมที่เขาหรือเธอตัวน้อยชอบ แต่ถ้าพ่อแม่บังคับให้เรียน ก็ต้องคิดว่าแล้วลูกจะได้อะไรตามมา

สาม ถ้าจำเป็นต้องให้ลูกกวดวิชาจริงๆ เพราะไม่มีคนดูแลลูก เพราะต้องทำงานนอกบ้านทั้งพ่อและแม่ ก็ควรให้ลูกมีส่วนต่อการตัดสินใจหรือเลือกว่าจะเรียนอะไร ถ้าเขาได้เลือกเองจะทำให้ได้ประโยชน์เต็มจากการเรียนนั้นๆ

ปัจจุบันนอกจากการเรียนกวดวิชา ก็มีกิจกรรมเสริมทักษะอื่นๆ อีกมากมายเป็นตัวเลือก ควรจะดูรายละเอียดด้วยว่าแต่ละแห่งเขามีกิจกรรมอะไรบ้าง เหมาะกับลูกของเราหรือไม่ ต้องไม่ลืมว่าการจะส่งลูกไปทำกิจกรรมในช่วงปิดเทอม ควรจะให้ลูกได้เรียนรู้ในสิ่งที่ตนเองสนใจด้วย ไม่ใช่เป็นเพียงการแก้ปัญหาเพราะไม่มีใครดูลูกเท่านั้น

สำหรับพ่อแม่ทำงาน ก็เข้าใจได้ว่าช่วงปิดเทอมอาจไม่มีใครช่วยดูแลลูก จะปล่อยให้อยู่บ้านคนเดียวก็ไม่ได้ ลองพูดคุยกับหัวหน้างานดูสิคะว่า ขอให้ลูกไปที่ทำงานบ้าง สลับกันกับที่ทำงานของพ่อและแม่ เป็นการสอนให้ลูกได้เรียนรู้ด้วยว่าพ่อแม่ต้องทำงาน ทุกคนต้องมีหน้าที่ ลูกเองตอนนี้มีหน้าที่ต้องเรียนหนังสือ เมื่อสำเร็จการศึกษาก็ต้องมีหน้าที่การงานที่ต้องรับผิดชอบ จะทำให้ลูกเข้าใจด้วยว่า พ่อแม่ต้องเหนื่อยในการทำงานหาเงิน เพื่อดูแลครอบครัว

หรือไม่ก็บริหารจัดการช่วงปิดเทอมของลูก เป็นช่วงลาพักร้อนของพ่อแม่ในการพาลูกไปเรียนรู้จากสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่เป็นแหล่งเรียนรู้ที่ดีสำหรับเด็ก จะช่วยสร้างทักษะการคิดและเรียนรู้โลกกว้างได้ดียิ่ง

เป็นธรรมดาที่พ่อแม่อยากมอบสิ่งที่ดีให้ลูก แต่สิ่งที่ดีไม่ได้มีแค่ในห้องเรียนเท่านั้นค่ะ 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการ

ข้อมูลจาก : http://www.thaihealth.or.th/node/17221
เรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ลงทะเบียนเข้างานครั้งแรก
ลงทะเบียนเข้างานครั้งแรก
Promotion Credit Card in BBB59
Promotion Credit Card in BBB59
โปรโมชั่นบัตรเครดิตภายในงานมากมาย! ช้อปสะดวก ผ่านบัตร พร้อมรับสิทธิพิเศษเพียบ
VISITOR INFORMATION BBB60
VISITOR INFORMATION BBB60
รู้ไว้ก่อนไม่เสียหาย จุดบริการ Service ต่างๆ ภายในงาน พร้อมสิทธิพิเศษต่างๆ มากมาย