ลงทะเบียนเข้างาน
Mobile number
e-mail
ข่าวสาร
แบ่งปัน
มาเลี้ยงลูกชายให้เป็น "ลูกผู้ชาย"กันเถอะ

มาเลี้ยงลูกชายให้เป็น "ลูกผู้ชาย"กันเถอะ การเลี้ยงลูกชายให้เป็นลูกผู้ชายในยุคนี้จะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยาก ที่ว่าง่ายนั้นอยู่ในเงื่อนไขที่ว่า พ่อแม่มีต้นแบบดี ๆ ให้เด็กยึดถือเป็นแบบอย่าง ส่วนที่ว่ายากก็เพราะสื่อสมัยนี้มักนำเสนอเรื่องของความเป็น "ผู้ชาย" ที่ไม่เหมาะสมมากขึ้นทุกที ดังจะเห็นได้จากกรณีของนักร้องชื่อดังที่ปรากฏเป็นข่าวอยู่ในตอนนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเป็นลูกผู้ชายที่ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่างกับการบอกในที่แจ้งว่าให้ฝ่ายหญิงพาลูกไปตรวจดีเอ็นเอก่อน หากผลออกมาว่าเป็นลูกตนจึงจะยอมรับ ซึ่งในความเป็นจริง การพูดเช่นนั้นอาจทำได้ ถ้าพูดเฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น ไม่ควรออกมาป่าวประกาศให้กับสังคมและโลกร่วมรับรู้แต่อย่างใด หากเด็กเป็นลูกของดาราท่านนั้นจริง อนาคตของเด็กคนนี้จะต้องถูกคำพูดของพ่อตามมาหลอกหลอนอีกนานเท่าไร จะมีใครบอกได้

ส่วนเทคนิคที่ช่วยให้การเลี้ยงลูกชายเติบโตเป็นคนดีมีความเป็นสุภาพบุรุษจะมีอะไรบ้าง ลองไปติดตามกันดูค่ะ

1. ต้องมั่นใจได้ว่า เด็กมีต้นแบบที่ดีอยู่ข้าง ๆ กาย 
ข้อนี้อาจเป็นข้อที่สำคัญที่สุดในการเลี้ยงดูเด็กผู้ชายเลยทีเดียว ต้นแบบคนนั้นอาจเป็นพ่อ คุณตา คุณปู่ หรือแม้กระทั่งภาพถ่ายของพ่อ เพราะในชีวิตของเด็กคนหนึ่ง การได้มีต้นแบบให้เจริญรอยตามเป็นส่ิงที่จะช่วยให้เขาทราบว่าเส้นทางที่เขาควรจะยึดถือนั้นควรเป็นแบบใด ต้นแบบที่ดียังช่วยเสริมสร้างคุณลักษณะที่เหมาะสมที่เด็กผู้ชายคนหนึ่งควรมี ควรเป็นได้ด้วย

2. ต้องกำหนดขอบเขตที่ชัดเจนให้ลูก
สิ่งใดทำได้ สิ่งใดไม่ควรทำ พ่อแม่ต้องกำหนดเอาไว้ให้ชัดเจน และเด็กผู้ชายมักอยากลองละเมิดข้อห้ามของพ่อแม่เล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อทดสอบความศักดิ์สิทธิ์ของกฎเสียด้วย และยังมีผลไปถึงตอนโต

3. คุยกับลูกบ่อย ๆ
พ่อแม่ที่มีลูกชายควรสื่อสารกับลูกให้มาก ๆ เพราะเด็กผู้ชายอาจเจ๊าะแจ๊ะไม่เก่งเท่าเด็กผู้หญิง (แต่ก็มีไม่น้อยที่เป็นเด็กชายจอมอ้อนคุณแม่) การที่พ่อแม่พยายามพูดคุยกับลูกก็เท่ากับช่วยลูกไปในตัว เวลาเด็ก ๆ มีปัญหาเขาจะได้อยากมาเล่ามาคุยให้พ่อแม่ฟัง ซึ่งการคุยกับลูกนั้น ควรทำให้เป็นกิจวัตรประจำวัน ตั้งแต่เขายังเล็ก ๆ จะดีกว่า

4. สอนให้เขาทำงานบ้านเป็น
งานบ้านไม่ใช่งานสำหรับลูกสาวคนเดียวอีกแล้ว การสอนให้ลูกชายรู้จักทำงานบ้านเป็นถือเป็นเรื่องดีมาก ๆ เพราะจะช่วยฝึกความรับผิดชอบให้เขาตั้งแต่เด็ก ๆ หากโตขึ้นมีครอบครัวจะได้สามารถช่วยภรรยาทำงานบ้านได้ ซึ่งการฝึกลูกให้เป็นเช่นนั้นจะช่วยลดความเหนื่อยของผู้หญิงที่จะเข้ามาเป็นภรรยาของลูกได้เป็นอย่างดี แต่สำหรับคนที่คิดว่าลูกอาจเป็นโสด การทำงานบ้านเป็นก็มีประโยชน์เช่นกัน เพราะลูกจะได้รู้จักซักผ้า รีดผ้า ถูบ้านได้ ไม่ต้องลำบากอยู่ในบ้านสกปรก ๆ

5. สอนลูกให้กล้าแสดงอารมณ์
เด็กผู้ชายจำนวนไม่น้อยถูกสอนให้เข้มแข็ง โดยพ่อแม่จะบอกว่า "ผู้ชายเขาไม่ร้องไห้กันหรอก" เด็กเลยเข้าใจว่าความเข้มแข็งคือการไม่ร้องไห้ให้คนอื่นเห็น แต่เด็กผู้ชายก็เป็นมนุษย์เหมือนกัน มีอารมณ์มีความรู้สึก รู้จักเจ็บปวดเหมือนกัน หากพ่อแม่เปิดโอกาสให้ลูกได้แสดงความรู้สึกบ้างก็คงจะเป็นเรื่องดีสำหรับเด็ก หรือหากเห็นลูกมีน้ำตาก็ไม่ควรต่อว่า แต่จะดีกับลูกมากกว่าหากพ่อแม่จะเห็นเป็นเรื่องธรรมดาเสียบ้าง

6. เปิดสังคมให้ลูก
ลูกชายที่แข็งแรง แจ่มใส ย่อมโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ การปล่อยให้ลูกออกไปเล่นตามธรรมชาติเด็กบ้างจึงเป็นเรื่องดี หรือจะหากิจกรรมให้เขาได้ฝึกจิตอาสาจากการช่วยเหลือชุมชน หรือโรงเรียนก็ได้ เพื่อให้เขาโตขึ้นเป็นคนมีน้ำใจ ชอบช่วยเหลือผู้อื่น ไม่ดูดายเวลาเห็นคนเดือดร้อน

7. อดทนให้มาก

การเลี้ยงลูกชายต้องอดทนค่ะ เพราะเมื่อเวลาผ่านไป เขาอาจดูตัวใหญ่จนเหมือนผู้ใหญ่คนหนึ่ง แต่หัวใจยังเป็นเด็กตัวน้อยอยู่ก็ได้ ซึ่งพ่อแม่เองเห็นอาการตัวโตของลูกแล้วก็เริ่มคาดหวังว่าเขาจะมีระเบียบวินัยเหมือนผู้ใหญ่คนหนึ่งพึงมี พอพบว่าไม่ใช่ ก็อาจผิดหวัง หรือเกรี้ยวกราดใส่ลูก เด็กผู้ชายเมื่อโตขึ้น เขาต้องการกำลังใจ และวิธีบอกให้เขาปฏิบัติตัวให้เหมาะสมเช่นเดิม เพียงแต่พ่อแม่ต้องปรับให้เข้ากับอายุ และอาจต้องใส่ความอดทนเพิ่มเข้าไปมากกว่าเดิม

เรียบเรียงจาก www.more4kids.info
  
 
เรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
Promotion Credit Card in BBB55
Promotion Credit Card in BBB55
โปรโมชั่นบัตรเครดิตภายในงานมากมาย! ช้อปสะดวก ผ่านบัตร พร้อมรับสิทธิพิเศษเพียบ
ลงทะเบียนเข้างานครั้งแรก
ลงทะเบียนเข้างานครั้งแรก
ครอบครัว BBB บริจาคเงิน สมทบทุนมูลนิธิรามาธิบดีฯ
ครอบครัว BBB บริจาคเงิน สมทบทุนมูลนิธิรามาธิบดีฯ
ทุนมะเร็งในเด็ก, ทุน OPD เด็ก, ทุนศัลยกรรมในเด็ก