ลงทะเบียนเข้างาน
Mobile number
e-mail
ข่าวสาร
แบ่งปัน
มะเร็งสมองเด็กอันตราย...แต่หายขาดได้

มะเร็งสมองเด็กอันตราย...แต่หายขาดได้ "โรคมะเร็ง" แค่ได้ยินชื่อก็นำความวิตกกังวลอย่างใหญ่หลวงมาให้กับผู้ที่ต้องเผชิญโรคนี้แล้ว ยิ่งถ้ามาเกิดในสมอง โดยเฉพาะในเด็กตัวน้อย ๆ คนที่เป็นพ่อแม่ก็คงหวาดวิตกเป็นอย่างมาก จนทำอะไรไม่ถูก... แต่ในทางการแพทย์ โรคมะเร็งในสมองของเด็กนั้น ถ้าพบและรักษาอย่างต่อเนื่อง ก็สามารถหายขาดได้ค่ะ

รู้จัก... มะเร็งสมอง

จากสถิติชมรมโรคมะเร็งเด็กแห่งประเทศไทย ภายใต้สมาคมโลหิตวิทยาแห่งประเทศไทย ซึ่งรวบรวมข้อมูลจากคนไข้เด็กที่เป็นเนื้องอกสมองที่ลงทะเบียนไว้ทั่วประเทศพบว่า จำนวนผู้ป่วยใหม่โรคมะเร็งเพิ่มขึ้นประมาณ 1,000 คนต่อปี และเป็นมะเร็งสมองประมาณ 150 คนต่อปี ซึ่งถือเป็นอันดับ 2 รองจากมะเร็งเม็ดเลือดขาว

มะเร็งหรือเนื้องอกในสมองเกิดขึ้นได้ อย่างไรนั้น ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดอาจเกิดจากพันธุกรรมผิดปกติ หรือจากการที่แม่ได้รับสารพิษเข้าสู่ร่างกายระหว่างการตั้งครรภ์ หรือระหว่างที่แม่ตั้งครรภ์มีสุขภาพไม่ดีก็อาจส่งผลต่อลูกพบได้ในเด็กอายุตั้งแต่ขวบปีแรก บางรายมีอาการตั้งแต่อยู่ในครรภ์ส่วนใหญ่จะพบในเด็กเล็กมากกว่าเด็กโต

โดยทั่วไปมะเร็งสมองไม่มีการแบ่งระยะของโรค แต่จะแบ่งตามชนิดของก้อนเนื้อที่พบว่าเป็นก้อนเนื้องอกธรรมดาหรือเป็นก้อนเนื้อมะเร็ง

อย่างไรก็ตามการพบเนื้องอกในสมองไม่ว่าจะเป็นชนิดไหนก็เกิดความรุนแรงขึ้นได้ เนื่องจากสมองเปรียบเสมือนกล่อง เมื่อมีก้อนเนื้อขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ก็จะเบียดและอัดแน่นอยู่ในสมอง ส่งผลให้สมองเกิดความดันสูงขึ้น ถ้าปล่อยไว้ไม่รักษาอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้

ลักษณะอาการ

อาการโดยทั่วไปคือปวดศีรษะเรื้อรังปวดรุนแรงจนอาเจียนพุ่ง ความดันในกะโหลกสูง และอาจส่งผลต่อระบบประสาทตา ทำให้มีอาการสายตาพร่ามัวมองไม่ชัดหรือมองภาพซ้อน หากเกิดขึ้นในตำแหน่งที่ควบคุมการทรงตัว จะมีอาการแขนขาอ่อนแรงหรือชาครึ่งซีก เดินโซเซ บางรายอาจมีอาการตากระตุกหรือตาเขร่วมด้วย ถ้าอาการรุนแรงจะเกิดการชักและเกร็งขึ้นได้

สำหรับในเด็กเล็กที่อายุต่ำกว่า 1 ขวบ เนื่องจากไม่สามารถพูดบอกได้ จึงควรสังเกตอาการดังนี้ มีศีรษะโตผิดปกติกระหม่อมตึง เนื่องจากความดันในกะโหลกศีรษะสูง มีอาการซึมผิดปกติ ไม่ดูดนม มีอาเจียนพุ่ง ส่วนใหญ่จะมีอาการรุนแรง เนื่องจากกระหม่อมยังไม่ปิดสมองยังสามารถขยายได้อยู่ ก้อนเนื้อก็จะโตได้เรื่อยๆ ทำให้แสดงอาการช้ากว่าจะพบก้อนเนื้อก็มีขนาดใหญ่แล้วจึงทำการรักษาได้ยาก

เนื้องอกตรงไหนในสมอง

ในสมองไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าเนื้องอกจะเกิดขึ้นในสมองส่วนไหน แต่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกส่วน แล้วแต่ชนิดของมะเร็งและเนื้องอก

ซึ่งมีหลายชนิด แต่ 1 ใน 3 ที่พบบ่อย คือ ชนิด Medulloblastoma (เมตตูลโลบลาสโตมา) มักพบบริเวณสมองส่วนเล็กหรือซีรีเบนรัม ซึ่งเนื้องอกชนิดนี้โตเร็ว และอาจกระจายไปตามทางเดินของน้ำไขสันหลัง เกิดภาวะน้ำคั่งในสมองขึ้นได้

รักษาต่อเนื่อง...โอกาสหายสูง

วิธีการรักษาโรคมะเร็งสมองในเด็กมีหลายวิธีคือ การผ่าตัด การฉายแสงและยาเคมีบำบัด ถ้าเนื้องอกนั้นเป็นมะเร็งหรือเป็นชนิดที่รุนแรง ต้องทำการผ่าตัด และรักษาด้วยวิธีอื่น ๆ ตามอาการของโรค ซึ่งถ้าเกิดในเด็กที่อายุต่ำกว่า 3 ปี สมองยังมีการพัฒนาจะพยายามหลีกเลี่ยงการฉายแสง เพราะอาจมีผลกระทบต่อสมองได้ อาจจะใช้ยาเคมีบำบัดจนกว่าจะมีอายุครบ 3 ปี จึงสามารถรักษาด้วยการฉายแสง และถ้าทำการรักษาอย่างต่อเนื่อง ปฏิบัติตามแพทย์สั่งประมาณ 3 ใน 4 หรือ 50-75% ของผู้ป่วยมีโอกาสหายขาดได้ และมีชีวิตยืนยาว

ชีวิตเมื่อมีมะเร็ง

การเกิดเนื้องอกหรือมะเร็งในสมอง ย่อมเกิดผลกระทบต่อสมองส่วนใดส่วนหนึ่งได้ จากการที่ก้อนเนื้ออาจขัดขวางระบบการทำงานในสมอง ซึ่งสมองเป็นส่วนสำคัญ เป็นศูนย์กลางควบคุมระบบการทำงานของฮอร์โมนที่มีผลต่อการเจริญเติบโต และพัฒนาส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ฮอร์โมนควบคุมการเจริญเติบโตของร่างกาย (โกรว์ธฮอร์โมน) ฮอร์โมนควบคุมต่อมไทรอยด์ ฮอร์โมนควบคุมเรื่องสภาวะทางเพศ

สมัยก่อนขั้นตอนในการรักษามีการฉายแสง ซึ่งอาจส่งผลให้สมองได้รับผลกระทบให้ฮอร์โมนทำงานผิดปกติ เด็กจึงมีคุณภาพชีวิตต่ำมาก มีไอคิวต่ำ ตัวเล็กพัฒนาการสมองช้ากว่าปกติ

แต่ปัจจุบันวิวัฒนาการทางการแพทย์ก้าวหน้ามากขึ้น เทคนิคการฉายแสงดีขึ้นลดผลข้างเคียงของการฉายแสง ร่างกายเจริญเติบโตปกติ พัฒนาการด้านสมองเป็นไปด้วยดี ไปเรียนหนังสือได้ตามปกติ บางคนเรียนจนจบระดับปริญญาตรี และมีคุณภาพชีวิตดีขึ้นตามไปด้วย

"การรักษามะเร็ง วิธีที่ดีที่สุด คือ กำลังใจ การมองโลกในแง่ดี และปรึกษากับแพทย์ว่าควรทำอย่างไร ถ้าไม่เข้าใจอะไร ควรถามแพทย์ผู้ดูแล เพื่อที่จะดูแลผู้ป่วยได้อย่างดี"

การติดตามผล

คุณพ่อคุณแม่ต้องติดตามผลการรักษาหรือพาลูกพบแพทย์อย่างต่อเนื่อง แม้แพทย์รักษาเสร็จสิ้นแล้ว หากไม่ขาดการรักษา และได้รับการดูแลเป็นอย่างดีปฏิบัติตามที่แพทย์แนะนำ ภาวะเสี่ยงต่อการที่โรคจะกลับมาหรือมีผลข้างเคียงต่อการรักษาน้อยมาก มีไม่ถึงร้อยละ 5% ที่โอกาสของโรคจะกลับมาอีก

กำลังใจ...ยาที่ดีที่สุด


การรักษามะเร็งวิธีที่ดีที่สุดคือกำลังใจการมองโลกในแง่ดี และปรึกษากับแพทย์ว่าควรทำอย่างไร ถ้าไม่เข้าใจอะไรควรถามแพทย์ผู้ดูแล เพื่อที่จะดูแลผู้ป่วยได้อย่างดี บางคนพอรู้ว่าลูกเป็นก็คิดไปแล้วว่าต้องรักษาไม่ได้ ลูกต้องตายแน่ ทำให้หมดกำลังใจในการดูแลรักษา แต่ในปัจจุบันการรักษาดีขึ้นมาก มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญดูแลอย่างดี โอกาสหายขาดถึง 70% และถ้าหายขาดก็คือหายขาด เพราะฉะนั้นอย่าท้อแท้ ต้องมีกำลังใจที่เข้มแข็งนะคะ

เมื่อคุณพ่อคุณแม่มีกำลังใจที่เข้มแข็งแล้ว ลูกก็จะมีร่างกายและจิตใจที่เข้มแข็งตามไปด้วย ส่งผลให้มะเร็งต้องขยาด หนีไปไม่กลับมาอีกค่ะ

ข้อมูลจาก : http://women.kapook.com/view10570.html
เรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ลงทะเบียนเข้างานครั้งแรก
ลงทะเบียนเข้างานครั้งแรก
Promotion Credit Card in BBB59
Promotion Credit Card in BBB59
โปรโมชั่นบัตรเครดิตภายในงานมากมาย! ช้อปสะดวก ผ่านบัตร พร้อมรับสิทธิพิเศษเพียบ
VISITOR INFORMATION BBB60
VISITOR INFORMATION BBB60
รู้ไว้ก่อนไม่เสียหาย จุดบริการ Service ต่างๆ ภายในงาน พร้อมสิทธิพิเศษต่างๆ มากมาย